DHL สร้างสรรค์ประสบการณ์โลจิสติกส์ที่ใช้งานง่ายผ่านระบบออนไลน์ ‘myDHLi Quote & Book’

0
3144

ในขณะที่สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจแปรเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้บริโภค อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องก็ต้องคอยปรับตัวให้ล้อไปกับความเปลี่ยนแปลงนั้น และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างก้าวกระโดด ความซับซ้อนทางธุรกิจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

อุตสาหกรรมโลจิสติกส์โดยเนื้อแท้นั้นประกอบด้วยกระบวนการสลับซับซ้อนมากมาย ที่ซ่อนอยู่ภายใต้หลักการทำงานที่อาจดูเรียบง่าย และเพื่อยกระดับความมีประสิทธิภาพของกระบวนการ ก็จำเป็นที่จะต้องเฟ้นหาวิธีการที่จะช่วยลดความซับซ้อนและเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น

ในฐานะที่ DHL เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายใหญ่ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการลดความซับซ้อนของกระบวนการโลจิสติกส์มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยขนาดขององค์กรที่มีเครือข่ายโยงใยทั่วโลก การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจก็มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีก

เพื่อการเติบโตทางธุรกิจ การขยายการปฏิบัติการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น DHL Global Forwarding (Thailand) ได้เปิดตัวระบบ myDHLi Quote & Book เพื่อมอบประสบการณ์ดิจิทัลโฉมใหม่ ที่จะช่วยให้แม้แต่ลูกค้าที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการขนส่งสินค้ามาก่อน สามารถใช้ประโยชน์จากอัตราค่าบริการที่แข่งขันได้ในตลาด ในการจัดส่งสินค้าไปยังปลายทางต่างๆ ทั่วโลก

นิตยสาร LM ฉบับนี้ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ Mr. Edwin Pinto ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท DHL Global Forwarding (Thailand) ร่วมด้วยคุณสุวรรณา สัมฤทธิ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายขนส่งสินค้าทางอากาศ และคุณแสงเงิน จงวิวัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายขนส่งสินค้าทางทะเลและพิธีการศุลกากร ให้เกียรติมาร่วมแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับบริการ myDHLi Quote & Book และประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ กว่า 60 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย

Taking the First Step

Mr. Edwin Pinto, Country Sales Manager at DHL Global Forwarding (Thailand)

ด้วยความซับซ้อนของกระบวนการโลจิสติกส์​ ความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้เรียบง่ายในคราวเดียวนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เว้นแต่จะต้องรื้อระบบและปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด หากแต่การค่อยๆ แก้ไขไปทีละส่วนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน น่าจะเป็นวิธีการที่เหมาะสมมากกว่า และนั่นก็คือสิ่งที่ผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง DHL มุ่งมั่นผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาโดยตลอด

ระบบ myDHLi Quote & Book นั้น โดยเนื้อแท้แล้วก็คือการยกเครื่องระบบ Online Quoting Tool (OQT) ของ DHL ใหม่ทั้งหมด โดยให้ความสำคัญในเรื่องของความเรียบง่าย ซึ่งเป็นการนำความคิดเห็นของลูกค้าจากประสบการณ์การใช้งาน QQT มาใช้ประโยชน์ ซึ่ง Mr. Pinto กล่าวในกรณีนี้ว่า “เครื่องมือสำหรับการเสนอราคาและสั่งจองบริการที่สะดวกสบายนี้จะช่วยลูกค้าในการเปรียบเทียบข้อเสนอราคา และสามารถสั่งจองบริการได้ทันที โดยลูกค้าสามารถเข้ามาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุด สำหรับทั้งบริการขนส่งสินค้าทางอากาศและทางเรือ รวมไปถึงการขนส่งสินค้าแบบ Door-to-Door ด้วย เครื่องมือที่มีความเป็นมิตรกับผู้ใช้นี้ยังสอดคล้องกับแนวทางการพลิกโฉมสู่การทำงานแบบดิจิทัลและการสร้างความเรียบง่ายในกระบวนการปฏิบัติงานของ DHL โดยใช้ข้อมูลจากความคิดเห็นของลูกค้า เราได้ทำการปรับปรุงเครื่องมือออนไลน์เดิมของเรา และบูรณาการเครื่องมือต่างๆ เข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ก็คือระบบหนึ่งเดียวที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น และอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ขนาดที่แม้แต่ลูกค้าที่ไม่มีความรู้เรื่องการขนส่งสินค้ามาก่อน ก็สามารถเข้ามาใช้บริการของเราได้”

บริการ myDHLi Quote & Book ได้รับการออกแบบมาเพื่อลูกค้าธุรกิจรายย่อย อย่างเช่น ธุรกิจ SME ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ส่งสินค้าเป็นประจำ หรือผู้ที่เริ่มต้นส่งสินค้าเป็นครั้งแรก ซึ่ง DHL มีความตั้งใจที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและมอบประสบการณ์ที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และสะดวกรวดเร็วในการใช้บริการด้านโลจิสติกส์ให้กับพวกเขา ซึ่งเป็นช่องทางการให้บริการที่แตกต่างจากกลุ่มลูกค้าประจำที่มีการทำสัญญาการให้บริการอยู่แล้ว “ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งเริ่มเปิดตัวบริการนี้ได้ไม่นาน แต่ก็สังเกตได้ว่าลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี จากระบบที่เข้าใจและใช้งานง่าย จึงมีลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการกันมากขึ้นเรื่อยๆ” Mr. Pinto กล่าว

Ms. Suwanna Sumritkij, Head of Airfreight Product DHL Global Forwarding (Thailand)

คุณแสงเงินยังกล่าวถึงการขยายขีดความสามารถ และทิศทางการพัฒนาสำหรับแพลตฟอร์มการบริการใหม่นี้ โดยกล่าวว่า “ระบบของเรานั้นค่อนข้างใหม่และยังสามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกมาก โดยปัจจุบัน ลูกค้าสามารถสั่งจองบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ และบริการขนส่งแบบ LCL ผ่านระบบฯ และเราก็กำลังพัฒนาระบบสำหรับให้บริการอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งน่าจะพร้อมให้บริการในอีกไม่นานนี้

คุณสมบัติที่น่าสนใจประการหนึ่งก็คือ ระบบจะเสนอทางเลือกการจัดส่งรูปแบบอื่นๆ ให้กับลูกค้าด้วย ตัวอย่างเช่น กรณีที่ลูกค้ากำลังตรวจสอบราคาสำหรับการส่งสินค้าแบบ LCL ระบบก็จะเสนอทางเลือกพร้อมราคาสำหรับการจัดส่งทางอากาศให้ลูกค้าพิจารณาด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าลูกค้าอาจไม่ได้นึกถึงทางเลือกอื่นๆ มาก่อน เครื่องมือนี้จึงสามารถช่วยให้ลูกค้าค้นพบทางเลือกที่ดีที่สุดของตัวเอง และตัดสินใจส่งสินค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”

“การที่ myDHLi Quote & Book สามารถเสนอราคาค่าบริการสำหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศและการขนส่งสินค้าทางทะเลได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้ข้อมูลประกอบจำนวนมากนั้น เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับลูกค้า ข้อเสนอราคาที่ตรงไปตรงมาของเราช่วยลูกค้าในการเปรียบเทียบอัตราค่าบริการและระยะเวลาการจัดส่ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกบริการที่เหมาะที่สุดสำหรับธุรกิจของพวกเขาได้” คุณสุวรรณา กล่าวเสริม “นอกจากนี้ DHL ยังเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการจัดการขนส่งสินค้ากลุ่มแรกที่เสนอทางเลือกในการประกันภัยสินค้า ควบคู่ไปกับการเสนอราคาค่าบริการทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่ลูกค้าใหม่มักไม่ทราบว่าสามารถซื้อความคุ้มครองได้ ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งก็คือ เราพยายามให้ข้อมูลแก่ลูกค้าของเราว่ากระบวนการขนส่งสินค้านั้นเป็นอย่างไร และประกอบด้วยบริการอะไรบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราตั้งใจมอบให้แก่ลูกค้า เพื่อให้พวกเขาเข้าใจและมั่นใจในคุณภาพการบริการของเรา”

The Right Approach

Ms. Sangngern Chongvivatthanatham, Head of Ocean Freight and Customs DHL (Thailand)

นวัตกรรมอย่าง myDHLi Quote & Book  รวมทั้งบริการแบบดิจิทัลใหม่ๆ ที่ DHL พัฒนาขึ้นนั้นสะท้อนถึงปรัชญาการพัฒนาธุรกิจที่เน้นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยกระชับกระบวนการทำงาน และลดความซับซ้อนในขั้นตอนต่างๆ ซึ่งแนวโน้มการปรับตัวเข้าสู่ระบบดิจิทัลของบริษัทฯ นั้นมีความชัดเจน ทั้งยังเป็นไปตามทิศทางของอุตสาหกรรมด้วย อย่างไรก็ตาม Mr. Pinto เน้นย้ำว่า DHL ยังคงให้ความสำคัญในการดูแลและให้บริการแก่ลูกค้าทุกรายตามความสะดวกของลูกค้าอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง

“เป็นเรื่องปกติของการดำเนินธุรกิจที่เราต้องพยายามดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราเห็นความสำคัญของลูกค้าเดิมน้อยลง ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่สะดวกสั่งจองพื้นที่ระวางทางโทรศัพท์ ก็ยังคงสามารถใช้บริการของเราผ่านทางโทรศัพท์ได้เหมือนเดิม  ผมอยากให้ลูกค้าทุกคนเข้าใจว่า เราพร้อมที่จะให้บริการผ่านทุกช่องทางที่ลูกค้าสะดวกที่สุดเสมอ

ซึ่งหากจะกล่าวไปแล้วช่องทางหรือแพลตฟอร์มการบริการใหม่ดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็เป็นเพียงแนวทางในการปรับโฉมหน้าธุรกิจของเราสู่กระบวนการแบบดิจิทัลเท่านั้น หากแต่กิจกรรมด้านซัพพลายเชนและโลจิสติกส์อื่นๆ ก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปตามปกติ ซึ่งแน่นอนว่าเพียงฉากหน้าที่สวยงามอย่างเดียวย่อมไม่อาจมัดใจลูกค้าให้กลับมาใช้บริการของเราได้ หากผลการจัดส่งสินค้าจริงๆ ไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่เป็นไปตามที่เราได้ให้สัญญาเอาไว้กับลูกค้า

ยุทธศาสตร์ของเราในตอนนี้คือการดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ผ่านช่องทางแบบดิจิทัล ซึ่งเราก็สามารถดำเนินการได้ตามที่มุ่งหวังเอาไว้ และเราก็ต้องการที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าทุกสิ่งที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมา สำหรับทุกภาคอุตสาหกรรมและทุกกลุ่มลูกค้า จะเป็นประโยชน์แก่พวกเขาจริงๆ ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลที่เราเปิดรับและพยายามเรียนรู้ความต้องการ รวมทั้งคำติชมต่างๆ ของลูกค้าอยู่เสมอ”

ทิศทางของอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้า ได้ผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สอดรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเบื้องหลังการกำเนิดของเครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้ก็คือ การช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดเวลาและในขณะเดียวกันก็ได้รับข้อมูลและทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อประกอบการตัดสินใจ การปรับเปลี่ยนเข้าสู่กระบวนการแบบดิจิทัลมีคุณประโยชน์หลากหลายประการ หากแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ก่อนที่จะขับเคลื่อนความต้องการเหล่านั้นให้ออกมาในรูปแบบของบริการแบบดิจิทัล

โลจิสติกส์เป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อน หากแต่ผู้นำของอุตสาหกรรมอย่าง DHL ก็มีความพยายามในการผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่อุตสาหกรรม เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มความรวดเร็ว และลดความซับซ้อนให้กับผู้ใช้บริการทุกคน ซึ่งเป็นทิศทางที่ DHL เชื่อมั่นและจะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

  • แท็ก
  • DHL
บทความก่อนหน้านี้เปิดวิสัยทัศน์และทิศทางการพัฒนาโครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟสที่สาม
บทความถัดไปBMTP ก้าวสู่อนาคตด้วยอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย บริการที่เหนือระดับ และความสามัคคีภายในองค์กร
Danny Gill
Danny is currently a Digital Marketing and Content Creation Manager for Airfreight Logistics and Logistics Manager (LM) and is quite the foodie. He’s always on the hunt for new and exciting dishes to sample, and is never one to back down from a spicy challenge. His travels have taken him around the world, and he’s been able to experience many different cultures (and food).